แมวเป็นแผล ดูแลยังไง? ให้หายเร็วและปลอดภัย

ถ้าการไปหาหมอมันยาก เราก็สามารถดูแลแมวเป็นแผลที่บ้านได้ แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี เพื่อให้แผลหายเร็วและปลอดภัย

• ทำความสะอาดแผลเป็นประจำ: ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น โดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ
• ทายาฆ่าเชื้อ: ทายาฆ่าเชื้อตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
• สังเกตอาการ: สังเกตอาการของแผลอย่างใกล้ชิด ถ้าแผลมีอาการบวมแดง อักเสบ มีหนอง หรือมีกลิ่นเหม็น ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์
• ป้องกันการเลียแผล: แมวบางตัวอาจจะเลียแผลตัวเอง ทำให้แผลหายช้า หรือติดเชื้อได้ เราอาจจะใส่ปลอกคอกันเลีย หรือใช้ผ้าพันแผลป้องกัน

ถึงแม้ว่าเราจะสามารถดูแลแมวเป็นแผลเบื้องต้นได้ แต่ก็มีบางกรณีที่เราควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที

• แผลมีขนาดใหญ่ หรือลึก : แผลที่ใหญ่ หรือลึก อาจจะต้องเย็บ หรือผ่าตัด
• เลือดออกมาก : ถ้าเลือดออกไม่หยุด ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อห้ามเลือด
• แผลมีอาการติดเชื้อ : ถ้าแผลมีอาการบวมแดง อักเสบ มีหนอง หรือมีกลิ่นเหม็น แสดงว่าแผลติดเชื้อ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์
• แมวมีอาการป่วยอื่นๆ ร่วมด้วย : ถ้าแมวมีอาการซึม เบื่ออาหาร มีไข้ หรืออาเจียนร่วมด้วย ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์

ปี 2025 แล้วนะทุกคน! การดูแลแผลให้น้องหมาน้องแมวที่บ้านง่ายขึ้นเยอะเลย มีนวัตกรรมเจ๋งๆ เพียบที่ช่วยฟื้นฟูและดูแลแผลสัตว์เลี้ยง หาซื้อได้ง่าย ๆ ทั้งออนไลน์และร้าน Pet shop ทั่วไป แต่เดี๋ยวก่อน! ของมันเยอะขนาดนี้ จะรู้ได้ไงว่าอันไหนใช้ดีจริง หายจริง แถมปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง?

วันนี้มิ้นไม่พลาด เอาข้อมูลแน่นๆ ที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัยด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมสำหรับสัตว์เลี้ยง มาสรุปให้แบบเข้าใจง่ายๆ มีภาพเปรียบเทียบและคำอธิบายประกอบ จะได้ช่วยเพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลแผลให้น้องๆ ที่บ้านได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากของที่ไม่ดี

ผลิตภัณฑ์ดูแลแผลสัตว์เลี้ยงสมัยนี้มีเทคโนโลยีล้ำ ๆ ซ่อนอยู่เพียบ! วันนี้มิ้นขอหยิบ 3 เทคโนโลยีเด็ดๆ ที่ฮิตๆ กัน มาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ นั่นก็คือ Aloe Protect, Nano Silver และ Hypochlorous Acid เจ้า 3 ตัวนี้ ถึงแม้จะมีคุณสมบัติช่วยดูแลรักษาแผลเหมือนกัน แต่ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนะ ทั้งกลไกการออกฤทธิ์ ความเร็วในการรักษา ระยะเวลาที่ออกฤทธิ์ ความปลอดภัย (ผลข้างเคียง) รวมไปถึงอายุการเก็บรักษาด้วย

ดูตามภาพด้านล่างได้เลย มิ้นสรุปข้อมูลสำคัญๆ มาให้แล้ว จะได้เอาไปประกอบการตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับน้องหมาน้องแมวของเราที่สุด ปลอดภัยหายห่วงแน่นอน

จากภาพประกอบก็จะเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างของเทคโนโลยีในแต่ละแบบ

มาถึงเรื่องความเร็วในการออกฤทธิ์กันบ้าง Aloe Protect กับ Hypocholorous Acid นี่เขามาแบบไวไฟ แค่ไม่กี่วินาทีก็จัดการเชื้อโรคได้แล้ว เร็วกว่า Nano Silver ที่ต้องใช้เวลาหน่อย หลักนาทีถึงหลักชั่วโมง นึกภาพตามง่ายๆ นะคะ ถ้าใช้ Aloe Protect หรือ Hypocholorous Acid พวกเขาจะเหมือนนักดับเพลิงที่เข้าจัดการเชื้อโรคแบบทันทีทันใด แต่ Nano Silver จะค่อยๆ ทำงานแบบผู้ร้ายค่อยๆ ซึม ข้อเสียเปรียบของ Nano Silver ตรงนี้ก็คือ ถ้าเจ้านายที่บ้านเลียแผลปุ๊บหลังทายาปั๊บ ยาที่ทาอาจจะยังออกฤทธิ์ไม่เต็มที่ทำให้แผลหายช้าลงได้

ในเรื่องของระยะเวลาการออกฤทธิ์ Aloe Protect กับ Nano Silver นี่กินขาด! ฉีดสเปรย์หรือใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว ป้องกันได้ยาวนาน เรียกได้ว่า “ทายาเดียว เอาอยู่ทั้งวัน” ส่วน Hypocholorous Acid อาจจะต้องเติมบ่อยหน่อย เพราะมีข้อจำกัดเรื่องความเสถียร แต่ถ้าใครอยากได้ผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องแบบยาวนาน AloeProtect กับ Nano Silver คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ

• Aloe Protect เค้าใช้สารสกัดจากธรรมชาติอย่างว่านหางจระเข้ สูตรออร์แกนิก ปลอดภัย ไม่ระคายเคือง แถมยังใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ต้องกลัวน้องหมาน้องแมวเลียเลย
• Nano Silver มีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นพิษของอนุภาคเงิน ถึงจะปลอดภัยในการใช้ภายนอก แต่ก็ต้องระวังกันนิดนึงนะ เพราะถ้าใช้เยอะไปนาน ๆ อาจจะมีผลข้างเคียงได้ โดยเฉพาะการสูดดมเข้าไป น้องเลีย อาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ ทางที่ดีใช้ประกอบการรักษาเท่านั้น
• Hypochlorous Acid โดยทั่วไปก็ปลอดภัยในการใช้ภายนอกนะ แต่ต้องอยู่ในความเข้มข้นที่เหมาะสมเท่านั้นเอง อาจจะมีระคายเคืองบ้างถ้าโดนตา และถ้าสูดดมนาน ๆ ก็อาจจะมีปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจได้เหมือนกัน

มาถึงเรื่องความคงทนของผลิตภัณฑ์กันบ้าง ใคร ๆ ก็อยากได้ของที่ใช้ได้นาน ๆ จริงมั้ยคะ

• Dr.Zkin ใช้สารสกัดจาก Aloe Protect เค้าเริ่ดตรงนี้เลย เพราะมีความเสถียรสูง เก็บไว้ได้นานถึง 2 ปี โดยที่ประสิทธิภาพไม่ลดลงเลย ที่สำคัญคือไม่ต้องกลัวว่ายาจะหมดฤทธิ์ก่อนใช้ คุณพ่อคุณแม่น้อง ๆ มั่นใจได้เลยว่า Aloe Protect ยังไงก็ยังคงความปังอยู่เสมอ
• Nano Silver เสถียรภาพระดับกลาง ๆ อาจจะมีปัญหาเรื่องการโดนแสง โดน pH หรือปัจจัยอื่น ๆ บ้าง แนะนำให้เก็บไว้ในที่ร่ม อุณหภูมิเหมาะสม จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นนะคะ
• Hypochlorous Acid นี่สิมีปัญหากว่าเพื่อน เพราะน้องไม่ค่อยเสถียร เจอแสง เจอลมก็อาจจะเสื่อมสภาพได้ อายุการใช้งานสั้น ๆ แค่ 30 วันหลังผลิตหรือเปิดใช้เท่านั้นเอง ต้องรีบใช้ให้หมดก่อนหมดอายุ ไม่งั้นประสิทธิภาพอาจจะลดลงนะคะ

สรุปง่ายๆ นะคะ ถ้าให้เทียบ 3 เทคโนโลยี AloeProtect คือตัวเลือกที่ “สมดุล” ที่สุด เพราะเป็นน้องใหม่ที่เกิดมาเพื่อกลบจุดด้อยของเทคโนโลยีรุ่นพี่ เอาไปเลยคะแนนเต็ม 100 ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัยหายห่วง ใช้ได้กับทุกสภาพผิว และอายุการเก็บรักษาได้ถึง 2 ปี จุกๆ กันไปเลย

ส่วน Nano Silver ถึงจะฤทธิ์ยาวนานเหมือนกัน แต่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยในการใช้ระยะยาวด้วยนะ และHypochlorous Acid ถึงจะมาไวเคลมไว แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องความเสถียรและอายุการใช้งานที่สั้นเกินไปหน่อย

Dr.Zkin สกินแคร์สำหรับสัตว์เลี้ยง เค้าใช้เทคโนโลยี Aloe Protect นี่แหละ ช่วยปกป้องผิวและลดเชื้อโรคได้ยาวนาน ปลอดภัย อ่อนโยน และใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะแผลสด แผลหาย หรือผิวบอบบาง ก็ดูแลได้หมด คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้เลย

การดูแลน้องแมวเป็นแผลอย่างถูกวิธีเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เลยนะคะ เพราะจะช่วยให้แผลหายเร็ว แถมยังป้องกันการติดเชื้อได้อีกด้วย ทาสแมวทุกคนควรมีความรู้พื้นฐานในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และรู้วิธีดูแลน้องแมวเป็นแผลที่บ้าน แต่ถ้าแผลน้องแมวดูท่าทางไม่ดี หรือมีอาการแปลก ๆ รีบพาไปหาคุณหมอที่คลินิกด่วนๆ อ้อ! แล้วก็อย่าลืมมีตัวช่วยดี ๆ อย่าง Dr.Zkin Pet Spray สกินแคร์ดูแลแผลติดบ้านไว้นะคะ ตัวนี้ช่วยดูแลแผลให้หายเร็ว ปลอดภัยจากเชื้อโรค แถมยังช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้นด้วยค่ะ😻

หวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้ทาสทั้งหลาย ดูแลน้องแมวเป็นแผลอย่างถูกวิธีกันมากขึ้นนะคะ 😻

หากทาสคนไหนยังไม่รู้จะไปพาน้องแมวไปเช็คสุขภาพที่ไหน Dr.Zkin ขอแนะนำ

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ (Thonglor International Pet Hospital) เปิดบริการรักษาหมาแมวตลอด 24 ชม. ให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยงทุกชนิด ดูแลใส่ใจสัตว์เลี้ยง บริการ: ฉีดวัคซีนหมา, ฉีดวัคซีนแมว, ทำหมันหมา, ทำหมันแมว บริการรักษาสุขภาพสัตว์เลี้ยง ผ่าตัด รักษาโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง โรคตาสัตว์เลี้ยง โดยทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มากประสบการณ์ ครอบคลุมหลายจังหวัด